
โบรกเกอร์ Forex และ Binary Option ที่น่าเชื่อถือที่มีให้เทรดในปี 2019
นักเทรดในประเทศไทยส่วนใหญ่จะพิถีพิถันในการเลือกโบรกเกอร์ โดยพิจารณาจากหลายๆ อย่างประกอบกัน เช่น ความน่าไว้วางใจในระดับสากล มีใบอนุญาตควบคุมโดยองค์กรขนาดใหญ่ มีเว็บไซต์ภาษาไทยที่ให้ข้อมูลรายละเอียดเงื่อนไขอย่างชัดเจน มีค่าสเปรดที่ต่ำ มีสะดวกและรวดเร็วของการดำเนินการซื้อขาย มีความเสถียรของระบบเทรดและความแม่นยำของกราฟ มีโบนัสและโปรโมชั่นต่าง ๆที่ดึงดูดใจ การให้บริการและการสนับสนุนในการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว เป็นต้น
ในตลาดมีโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ให้เลือกใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นบริษัทโบรกเกอร์ขนาดเล็กที่อาจไม่ได้รับการดูแลควบคุมและไม่น่าไว้วางใจ จงอย่าโดนชักจูงจากโบนัสจำนวนมาก ที่อาจทำให้คุณต้องตกเป็นเหยื่อเพื่อลงทุนจำนวนมาก คุณจะต้องเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ ที่สุด เพื่อให้ทำการซื้อขายได้โดยไม่ต้องกังวลปัญหากับปัญหาใดๆ ที่จะตามมา
รายละเอียดจากนี้ไป จะอธิบายให้คุณมองเห็นภาพรวมของการซื้อ/ขายฟอเร็กซ์ของโบรกเกอร์ที่มีในประเทศไทย

1. Exness โบรกเกอร์ Forex ที่ฝาก/ถอนเงินได้เร็วที่สุด
Exness คือโบรกเกอร์ที่ช่วยให้เราสามารถถอนเงินได้ง่ายดายและรวดเร็วที่สุด อีกทั้งเป็นโบรกเกอร์ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในเรื่องของการฝาก/ถอนเงินอีกด้วย การันตีได้จากการที่ Exness ถูกจัดอันดับเป็นโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียหลายปีซ้อน และเป็นโบรกเกอร์ที่คนไทยนิยมเลือกใช้บริการเป็นอันดับต้น ๆ
ทำไม Exness ถึงรวดเร็วที่สุด?
เพราะ Exness มีระบบฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติหลากหลายช่องทาง อาธิเช่น โอนผ่านธนาคารระบบออนไลน์ในประเทศ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกสิกรไทย , ชำระผ่าน ATM, เคาน์เตอร์, Skrill, Webmoney, NETELLER, E-currency, Perfect Money, CASHU จึงทำให้การฝาก-ถอน เป็นไปอย่างงายดายและรวดเร็ว และถ้าฝากเงินด้วย internet banking เงินจะเข้าระบบทันที แต่ถ้าใช้ช่องทางอื่น ๆ ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 10 – 20 นาที และอาจช้าที่สุดไม่เกิน 24 ชั่วโมง อีกทั้งวันหยุดก็สามารถฝาก-ถอนเงินได้
2. โบรกเกอร์ที่มีปริมาณการซื้อ/ขาย มากที่สุด
ปริมาณการซื้อ/ขาย โดยโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มากที่สุดคือ โบรกเกอร์ Exness, XM, Hotforex, FXCM, Fxpro และ FXTM
ซึ่งประมาณการซื้อขายของโบรกเกอร์ต่าง ๆ เป็นดังนี้
– Exness: 323 พันล้าน USD/เดือน
– FBS: 280 พันล้าน USD/เดือน
– XM: 300 พันล้าน USD/เดือน
– OlympTrade 30,000,000 transactions ต่อเดือน
ข้อมูลดังกล่าว ได้จากการสำรวจและรวบรวมข้อมูลสำหรับโบรกเกอร์ฟอร์เร็กซ์ที่คนไทยนิยมเทรดเท่านั้น ลำดับข้างต้นอาจเปลี่ยนไปตามเวลาและเงื่อนไขอื่น ๆ ในตลาด จึงแนะนำว่าหากนักเทรดให้ความสำคัญในด้านไหน ก็ให้เลือกโบรกเกอร์ที่มีลักษณะเด่นหรือข้อดีในด้านนั้น ๆ
3. โบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตมากที่สุด
ใบอนุญาตของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์เป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะแสดงถึงมาตรฐาน ความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงหรือประวัติของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
โบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการและได้รับการดูแลจัดการที่เหมาะสมจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น ในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา นั้นจะได้รับการควบคุมโดย
Financial Conduct Authority (FCA), Australian Securities and Investment Commission (ASIC) และ National Futures Association (NFA) นอกจากนี้ในบางประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา จะมีองค์กรที่สำหรับควบคุมการซื้อ/ขาย Forex โดยเฉพาะ เช่น Commodities and Futures Trading Commission (CFTC) ซึ่งทำหน้าที่ออกกฎ/ระเบียบ รวมทั้งวางแผน ระบุแนวทางสำหรับการลงทุน ซึ่งใบอนุญาตโบรกเกอร์จะอยู่ในความควบคุมดูแลของหน่วยงานเหล่านี้ เพื่อจัดทำรายชื่อให้อยู่ในตลาดอย่างเป็นทางการ ในความคิดเห็นของผู้เขียนคิดว่าใบอนุญาตฟอเร็กซ์ : ASIC, CySEC, FSA, CFTC, NFA, NFA นั้นไว้วางใจได้มากที่สุด
ข้อเสียใหญ่ของโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตหลายใบก็คือ มีเลเวอเรจที่ต่ำ (Low Leverage) และมีสเปรดสูง (High Spread) เครื่องมือที่ช่วยในการซื้อขายน้อย จำนวนการฝากเงินมากและมีการแข่งขันที่ต่ำ…ดังนั้นไม่ควรตัดสินใจเลือกเพียงแค่โบรกเกอร์มีใบอนุญาตหลายใบเท่านั้น เพราะสำหรับโบรกเกอร์ที่ดีจริง ๆ แล้ว การมีใบอนุญาตแค่ใบเดียวก็ถือว่าเชื่อถือได้แล้ว
ตรวจเช็คให้มั่นใจว่าโบรกเกอร์ที่คุณเลือกนั้นมีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ และได้รับการกำกับดูแลจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ
4. โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ยอดนิยม ที่รองรับภาษาไทย
หากโบรกเกอร์มีซับพอร์ตภาษาไทย มีเว็บไซต์ที่เป็นภาษาไทยพร้อมสนับสนุนการให้ข้อมูลรายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างครอบคลุม มีการบริการตอบคำถาม ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ อย่างรวดเร็วในหลาย ๆ ช่องทางทั้งทางโทรศัพท์ และระบบออนไลน์ live chat ก็นับเป็นเกณฑ์ในการประเมินได้ว่าเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดี
การสื่อสารกับโบรกเกอร์นั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ ป้จจุบันโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ต่างก็มีระบบซับพอร์ตภาษาไทย หรือแชทออนไลน์เพื่อบริการตลาดในประเทศไทย อย่างเช่น Exness, XM,ฺ Binomo, FBS, Weltrade, RoboForex ฯลฯ
โบรกเกอร์รองรับภาษาไทย ที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับต้น ๆ
Exness: เป็นโบรกเกอร์ที่มีคนไทยใช้เยอะ เพราะมีระบบรองรับภาษาไทยที่ครอบคลุมที่สุด อีกทั้งได้ชื่อว่ามีทีมขายและศูนย์ดูแลลูกค้าที่ดีที่สุด ทั้งนี้ Exness ได้เสริมจุดแข็งโดยการสร้างแอปฯ บนมือถือที่มีตัวเลือกและฟังก์ชั่นสำหรับผู้เทรด ทำให้ผู้ใช้บริการของ Exness สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้น หากคุณมีปัญหาหรือข้อสงสัยใด ๆ เพียงสอบถามจากทีมงานในเว็บไซต์ เราจะได้รับการตอบกลับทันที เพราะ Exness มีศูนย์ดูแลลูกค้าด้วยระบบ live chat ที่ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
FBS: โบรกเกอร์นี้จัดกิจกรรมต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเราสามารถเข้าร่วมกับคนอื่น ๆ และ IB อีกหลายคน อีกทั้งโบรกเกอร์ FBS นั้นมีระบบที่รองรับภาษาไทยที่ถือว่าดีมาก และที่ขาดไม่ได้คือบริการให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง คุณได้รับการตอบสนองรวดเร็วที่สุดและได้รับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย
Binomo: โบรกเกอร์นี้มีมีเว็บที่รองรับภาษาไทยและมีทีมให้บริการเป็นคนไทย แต่มีข้อจำกัดว่ามีทีมสนับสนุนเฉพาะในเวลาทำการเท่านั้น

นอกจากโบรกเกอร์ Forex ที่กล่าวมานี้ คุณยังสามารถเทรดผ่าน Binary Option
(ไบนารีออฟชั่น) ซึ่งเป็นอีกหนทางหนึ่งในการทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว
หากคุณมีความรู้เพียงพอ
แต่การเทรดไบนารีออฟชั่นนั้นคุณต้องศึกษาวิธีการให้ดี ละเอียดรอบครอบ
และเช่นเดียวกันการเทรด Forex
คุณต้องหาโบรกเกอร์ไบนารี่ออฟชั่นที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้เช่น IQ Option
ที่มีใบอนุญาติจาก FCA และ CySec ซึ่งข้อดีของการเทรด Binary Option
นั้นคือมีบัญชี Demo ให้เราทดลองก่อนได้
ซึ่งหากใครสนใจสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ Binary Option ได้ที่นี่
5. โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ใดที่มีค่าใช้จ่ายในการเทรดต่ำที่สุด ?
โบรกเกอร์ที่จะได้ชื่อว่าดีที่สุด ต้องพิจารณามาตรฐานของค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย มีค่าสเปรดน้อย และคิดค่าคอมมิชชันต่ำ
หากพิจารณาสเปรดของคู่เงินที่มีมูลค่าสูงที่สุดซึ่งก็คือ EUR/USD ทดลองเปรียบเทียบค่าสเปรดของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ต่าง ๆ:
ดังนั้น ให้เราเปรียบเทียบค่าสเปรดของแต่ละโบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดต่ำสุด นั่นคือ Exness, FBS และ OlympTrade
เมื่อพิจารณาค่าคอมมิชชั่น ของโบรกเกอร์ทั้งหมดนี้ ซึ่งไม่มีใครคิดค่าคอมมิชชั่นในกรณีบัญชีทั่วไป แต่จะมีค่าคอมมิชชั่นหากเป็นบัญชี ECN เนื่องจากบัญชี ECN มีค่าสเปรดใกล้กับศูนย์ และในบัญชี ECN นั้น รายได้หลักคือค่าคอมมิชชั่น
หากพูดถึงบัญชี ECN แล้ว โบรกเกอร์ Exness ถือว่าไม่มีคู่แข่งในเรื่องนี้ เพราะมีค่าคอมมิชชั่นต่ำที่สุด ทั้งนี้ Exness คิดค่าธรรมเนียม 2 และ 5 USD ในแต่ละล็อต ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำสุดที่โบรคเกอร์เจ้าอื่น ๆ ไม่สามารถให้ได้
6. XM โบรกเกอร์กระเป๋าหนักที่รวยที่สุด
โบรกเกอร์ XM โบรกเกอร์ดาวรุ่งที่ครองอันดับ 1 ของปี 2019 ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงและต่อเนื่อง และเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำที่มีโปรโมชั่นเร้าใจหลากหลายและมีความมั่นคงสูง เรียกได้ว่า XM เป็นโบรกเกอร์ที่รวยที่สุด และมีการจัดประกวดที่ให้ผู้เข้าแข่งขันตบรางวัลใหญ่ได้อย่างไม่ขาดสาย
7. โบรกเกอร์ที่ทุกคนพูดถึงมากที่สุดในประเทศไทย
ข้อมูลนี้มาจากหลักเกณฑ์ของจำนวนคนที่คีย์หาโบรกเกอร์ต่าง ๆ ของแต่ละเดือน ซึ่งสามารถตรวจสอบโดยใช้ Google Trend ว่าโบรกเกอร์ใดมีจำนวนคนพูดถึงมากที่สุด
8.โบรกเกอร์ใดให้เลเวอเรจสูงที่สุด?
เลเวอเรจ เป็นออฟชั่นหนึ่งที่โบรกเกอร์สามารถมอบให้กับคุณ และเป็นที่รู้กันดีว่าการเทรดฟอเร็กซ์ที่มีเลเวอเรจสูงจะทำให้สามารถเปิดตำแหน่งที่ใหญ่กว่าและทำประโยชน์จากการซื้อขายให้มากที่สุด แต่ผู้เทรดฟอเร็กซ์ควรระวังกับการใช้เลเวอเลจที่สูง เพราะมันเหมือนกับดาบสองคม ซึ่งเป็นได้ทั้งการเพิ่มผลกำไรและการขาดทุน
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ดังต่อไปนี้มีเลเวอเรจที่สูงที่สุด:
-Exness: มีเลเวอเรจสูงถึง 1 : ไม่จำกัด (unlimited) เป็นโบรกเกอร์ใจป้ำที่ให้เลเวอเรจไม่จำกัดสำหรับบัญชีที่น้อยกว่า 1,000 USD/บัญชี และสำหรับการซื้อ/ขายที่มีจำนวนมากกว่า 5 Lot คุณก็ได้เลเวอเรจไม่จำกัดเช่นกัน โดยสำหรับบัญชีที่มากกว่า 1,000 USD อัตราเลเวอเรจคือ 1: 2000
– FBS: 1: 1000
– Hotforex: 1: 1000
– XM: 1: 888
– OlympTrade 1: 200

9. โบรกเกอร์ใดให้บริการประเภทบัญชีที่ดีที่สุด?
โบรกเกอร์ Forex ยักษ์ใหญ่ คงไม่เหมาะกับผู้เทรดที่มีจำนวนการซื้อ/ขายน้อย หรือฝากเงินในบัญชีด้วยเงินจำนวนน้อย เช่น: FXCM มียอดฝากขั้นต่ำที่ 2,000 USD และ XM มียอดฝากขั้นต่ำ 200 USD สำหรับผู้เทรดรายเล็ก ก็คงต้องมองหายอดฝากขั้นต่ำที่น้อยที่สุดเช่น OlympTrade หรือ Binomo ที่มียอดฝากขั้นต่ำแค่ 10 USD
10.โบรกเกอร์ใดที่โปร่งใส?
ปัจจุบัน ในแต่ละวันมีเงินหมุนเวียนเข้า/ออกโดยโบรกเกอร์ Forex เป็นจำนวนมาก และยังมีโบรกเกอร์ที่หลอกลวงปะปนอยู่ด้วย ดังนั้นการที่เราจะตรวจสอบว่าโบรกเกอร์รายใดมีความโปร่งใส อย่างแรกให้ดูที่เว็บไซต์ของโบรกเกอร์นั้นว่ามีรายงานทางการเงินเป็นอย่างไร โบรกเกอร์ที่มีเงินทุนสำรองจำนวนมาก มีฐานะทางการเงินค่อนข้างดี และเปิดเผยประวัติการเงินให้ตรวจสอบได้ ก็ถือว่าโบรกเกอร์นั้นมีความโปร่งใสระดับนึง
จะเห็นได้ว่าโบรกเกอร์ที่มีความโปรงใสมีเพียง Exness ซึ่งเราสามารถตรวจสอบข้อมูลการเงินจากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ได้โดยตรง และโบรกเกอร์ Exness ซึ่งติดอันดับของผู้เชี่ยวชาญจากสื่อออนไลน์ สำนักจัดอันดับ และวารสารรายใหญ่ด้านการเงินอีกหลายราย คุณสามารถตรวจสอบกองทุนของโบรกเกอร์ในธนาคารได้ และในปัจจุบัน Exness ฝากเงินไว้กับธนาคารมากถึง 151 USD ซึ่งมากกว่า 4 เท่าของเงินฝากของลูกค้า
การจัดอันดับของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ทั้งหมดนี้ อิงจากประสบการณ์ของผู้เขียน ซึ่งจริง ๆ แล้วโบรกเกอร์แต่ละเจ้าก็มีข้อเด่นและข้อด้อยที่ต่างกันออกไป โบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ นั้นมียอดฝากขั้นต่ำสูง ให้เลเวอเรจน้อย และมีคิดค่าคอมมิชชั่นแพง ในทางตรงข้าม โบรกเกอร์ขนาดเล็กเช่น OlympTrade ให้เลเวอเรจสูง สเปรดต่ำและยอดฝากขั้นต่ำที่ต่ำ นี่แหละคือกุญแจสำคัญที่ในการตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ เพื่อให้คุณประสบผลสำเร็จในการลงทุนได้
————————————————————————————————
ลงทุนในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราทั่วโลกในตลาดฟอเร็กซ์
ด้วยสกุลเงินตราหลักทั่วโลก

——- คุณสามารถทำกำไรได้เร็วและแรงจากการซื้อขายไบนารีออพชั่น และก้าวผ่านทุกข้อจำกัดของการลงทุนของคุณด้วยตัวเลือกการลงทุนที่เรียบง่าย ——-
———–ใช้เวลาสมัครไม่ถึง 3นาที คุณก็สามารถเริ่มการซื้อขายได้ทันที! ———–
โบรกเกอร์พันธมิตรพร้อมการสนับสนุนจากทีมงานคนไทยตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
เปิดบัญชี ฟรี! ง่ายๆ! แค่ภายใน 1 คลิก