ทำความรู้จักกับตลาด FOREX
FOREX หรือ FX มีชื่อเต็มคือ Foreign Exchange เป็นตลาดสำหรับการซื้อ/ขายอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีราคาแปรผันตามความต้องการซื้อ
(demand) และความต้องการขาย (supply) ในตลาดของสกุลเงินนั้น
ๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อัตราดอกเบี้ย ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน
สภาวะเศรษกิจ การเมือง ความมั่นคงของชาติ ความเชื่อมั่นในตลาด ฯลฯ จะเห็นได้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรานั้นค่อนข้างอ่อนไหวต่อสภาวะอื่น
ๆ ทั้งในและระหว่างประเทศเอามาก ๆ
ส่วนใหญ่แล้วเทรดเดอร์จะลงทุนกับคู่สกุลเงินหลักเช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยูโร (EUR) ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) หรือเยน (JPY) เป็นต้น โดยตลาดนั้นมีสภาพคล่องสูงมาก ด้วยประมาณการซื้อขายรายวันมากกว่า 5.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งมีความผันผวนของอัตราซื้อขายตลอดเวลา ในตลาด FOREX สมัยก่อน ผู้ที่จะซื้อ/ขายอัตราแลกเปลี่ยนต้องดำเนินการผ่านธนาคาร บริษัทประกัน หรือสถาบันการเงินอื่น ๆ เท่านั้น แต่ในปัจจุบันด้วยยุคของโลกาภิวัตน์ทำให้การเทรดออนไลน์เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เปิดโอกาสให้นักลงทุนน้องใหม่ไฟแรงสามารถลงทุนผ่าน “โบรกเกอร์” อย่างเช่น OlympTrade ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างผู้ลงทุนกับตลาด FOREX และส่งคำสั่งซื้อ/ขายจากผู้เทรดให้กับตลาดกลางนั่นเอง
คุณสมบัติเด่นของตลาด
FOREX
- สภาพคล่องสูง คนจำนวนมากจากทุกซอกมุมของโลกหลั่งไหลเข้ามาเทรดบน FOREX ทำให้มันเป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
- ส่งคำสั่งซื้อ/ขาย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ (หยุดวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ)
- High Risk High Return: สามารถทำกำไรได้รวดเร็วและขาดทุนได้รวดเร็วเช่นกัน ด้วยอัตราการผันผวนของค่าเงินที่อ่อนไหวต่อสถานการณ์บ้านเมืองสุด ๆ บวกกับที่ผู้ลงทุนสามารถใช้ Leverage ทำให้ผู้ลงทุนสามารถทำกำไรได้สูงและรวดแล้วด้วยเงินลงทุนที่ต่ำ แต่ขณะเดียวกันความเสี่ยงก็สูงเช่นกัน
- มีสกุลเงินให้เล่นหลากหลาย และสามารถทำกำไรได้ตลอด (ทั้งขาขึ้นและขาลง) ขึ้นกับ Demand และ Supply ในตลาด
- คิดค่าธรรมเนียมจาก spread (สเปรด) หรือก็คือส่วนต่างราคาการตั้งซื้อ (bid) กับราคาตั้งขาย (ask) ซึ่งค่า spread จะมากหรือน้อยขึ้นกับความนิยมของสกุลเงินนั้น ๆ หากสกุลเงินที่มีผู้เทรดมาก (สกุลเงินหลัก) จะมี spread ค่อนข้างต่ำหมายความว่าค่าคอมมิชชั่นก็จะต่ำนั่นเอง
- ซื้อ/ขายในรูปของคู่สกุลเงิน เช่น EUR/USD, GBP/EUR, USD/JPY และผู้เทรดจะได้กำไรหรือขาดทุนจากส่วนต่างของคู่สกุลเงินที่การคาดการณ์ไว้ กับค่าจริงที่ทำการเทรด หากถูกต้องตามแนวโน้มที่คาดการณ์ไว้ผู้เทรดก็จะได้กำไรทันที แต่ในทางกลับกันหากผิดคาด ก็จะขาดทุนทันทีเช่นกัน
ตัวอย่างการเทรด FOREX
สมมุติว่าในประเทศอังกฤษมีเหตุการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติหรือมีการเจรจาทำสนธิสัญญากับประเทศรอบข้าง
(อย่างเช่นในกรณี Brexit) และเราคาดการณ์ว่าเงินปอนด์ฯจะอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
(คาดว่า EUR/USD จะตก) และรีบตัดสินใจเปิดสถานะขาย
EUR/USD ที่ bid = 1.13263 จำนวน 5,000 หน่วย โดยใช้
leverage ที่ 100:1 ทำให้เราใช้เงินลุงทุนเพียง
(1.13263 x 5,000) / 100 = 56.6315 USD (จากที่ต้องใช้ 566.315
USD) ซึ่งหากค่าเงินเปลี่ยนแปลงตามที่เราคาดการณ์ไว้ว่า EUR/USD
จะตกลง เราสามารถสั่งปิดการขายทันที เช่น ที่ราคา ask = 1.14513 เราจะได้กำไร = (1.14513 –
1.13263) * 5,000 = 62.5 USD นั่นเอง
ด้วยคุณสมบัติเด่นของตลาด FOREX ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
มันเป็นตลาดการเงินที่มีความผันผวนสูง และเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงไม่ต้องถามเรื่องสภาพคล่อง
บวกกับเปิดโอกาสให้นักลงทุนรุ่นใหม่ไฟแรงสามารถใช้ Leverage
ในการทำกำไรด้วยเงินเพียงน้อยนิดได้
(แต่ขณะเดียวกันก็ขาดทุนได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน) จึงสรุปได้ว่า FOREX นั่นเหมาะกับผู้ที่ต้องการทำกำไรอย่างรวดเร็ว ใช้ทุนต่ำ
และสามารถยอมรับความเสี่ยงที่สูงได้
ผมหวังว่าบทความนี้จะตอบขอสงสัยของผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย หากใครสนใจทำกำไรจากตลาด FOREX คุณสามารถลงทะเบียนกับเราได้ทันที เพียงคลิกปุ่มด้านล่าง