ลงทุนในตลาดหุ้นด้วยการเทรดออนไลน์

ใครๆ ก็อยากได้กำไร อยากมีรายได้เข้ามาอยู่ตลอดเวลา การลงทุนด้วยการเทรดออนไลน์เป็นทางหนึ่งในการได้รับรายได้เหล่านี้ แม้ว่าการลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องศึกษาความรู้ให้แน่น หากคุณพร้อมแล้วสามารถทดลองเทรดกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือได้ทันที เพียงคลิกปุ่มด้านล่าง

อย่ากังวล อย่ากลัว ตลาดหุ้นไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คุณคิด

Advantages

Articles

แฉ ExpertOption เป็น Scam และหลอกลวง

แฉ ExpertOption…

ปัจจุบันมีโบรกเกอร์ไบนารี่ออฟชั่นและ Forex ให้นักลงทุนเลือกมากมาย แต่โบรกเกอร์แต่ละเจ้าก็มีข้อกำหนด…
แนวรับ แนวต้าน คืออะไร

แนวรับ แนวต้าน…

แนวรับ แนวต้าน คืออะไร หากคุณเพิ่งเริ่มต้นการลงทุนหรือการเทรดในตลาดหุ้น…
Dow Theory (ทฤษฎีดาว) คืออะไร 

Dow Theory…

       ทฤษฎี Dow Theory…
Drawdown คืออะไร

Drawdown คืออะไร

Drawdown คืออะไร Drawdown คืออัตราส่วน…
Note: 53 votes

Binary Option คืออะไร

ในปัจจุบันนี้มีช่องทางการลงทุนมากมายไม่ว่าจะเป็น การฝากประจำ การเล่นหุ้น กองทุนต่าง ๆ หรือ ไบนารี่ออปชั่น และวันนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับไบนารี่ออปชั่น ว่ามันคืออะไร แล้วเราจะสามารถสร้างรายได้จากสิ่งนี้ได้อย่างไร ก่อนอื่นเราไปทำความเข้าใจกันก่อนว่า Binary Option คืออะไร

Binary Option เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งเป็นตัวเลือกเพื่อช่วยให้นักลงทุน “คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะขึ้นหรือลงในอนาคต” เช่น ราคาหุ้นของ Google, ราคาของ Bitcoin, การแลกเปลี่ยน USD/GBP, อัตราหรือราคาทองคำ โดยช่วงเวลาที่ใช้อาจเพียงแค่น้อยเพียง 60 วินาที ก็ทำให้คุณสามารถทำการค้าขายได้หลายร้อยครั้งต่อวันในตลาดโลก และก่อนที่คุณจะทำการค้า คุณจะรู้ว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนคืนมาเท่าไหร่หากการคาดการณ์ของคุณถูกต้องโดยปกติ 70-95%  ถ้าคุณลงทุน $ 100 คุณจะได้รับเครดิต $ 170 ถึง $ 195 จากการเทรดที่ประสบความสำเร็จของคุณ สิ่งนี้ทำให้การบริหารความเสี่ยงและการตัดสินใจซื้อขายง่ายขึ้นมาก ซึ่งผลลัพธ์จะมีคำตอบแค่หรือไม่ใช่ หมายความว่า ถ้าคุณชนะก็ได้ทั้งหมด หรือ ถ้าคุณแพ้ก็เสียทั้งหมดนั่นเอง สิ่งนี้จึงถูกเรียกว่า “Binary Option” นั่นเอง โดยความเสี่ยงและผลตอบแทนจะเป็นที่ทราบกันล่วงหน้า และโครงสร้างผลตอบแทนก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าดึงดูดเป็นอย่างมาก

และตอนนี้การซื้อขายแลกเปลี่ยนบนไบนารี่มีการเปิดอย่างถูกต้องแล้ว นั่นหมายความว่าผู้ค้าหรือเทรดเดอร์ไม่ได้เทรดต่อต้านกับโบรกเกอร์แต่อย่างใด แต่ในการเริ่มต้นซื้อขายคุณต้องมีบัญชีของโบรคเกอร์ที่ได้รับการควบคุมหรือมีใบรับรองก่อน

หากคุณยังเป็นน้องใหม่ใน Binary Option คุณสามารถเปิดบัญชีทดลอง (Demo Account) กับโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก่อน เพื่อลองใช้แพลตฟอร์มของพวกเขาและดูว่าการทำงานเป็นอย่างไรในการซื้อขาย ก่อนที่คุณจะฝากเงินจริง

ประเภทตัวเลือก (Option Types)

ตัวเลือกของไบนารี่ออปชั่นที่พบมากที่สุด คือ การซื้อขายแบบ “ขึ้น/ลง” อย่างไรก็ตามก็ยังมีตัวเลือกประเภทต่าง ๆ แต่ปัจจัยทั่วไปอย่างหนึ่ง คือ ผลลัพธ์จะมีผลลัพธ์เป็น “ไบนารี” (นั่นคือ ใช่หรือไม่ใช่ เท่านั้น) ต่อไปนี่คือประเภทตัวเลือกอื่น ๆ ที่มี

  • ขึ้น/ลง หรือ สูง/ต่ำ – ตัวเลือกไบนารีพื้นฐานและใช้กันทั่วไป เป็นการลงทุนแบบที่มีการเปิดโอกาสให้ทายผลราคาสินทรัพย์ที่คาดว่าจะขึ้นหรือลง (Up/Down or High/Low)
  • In/Out, Range หรือ Boundary – ตัวเลือกนี้จะตั้งค่าตัวเลข “สูง” และ “ต่ำ” แล้วให้เทรดเดอร์หรือผู้ค้าทำนายว่าราคาจะสิ้นสุดภายในระดับหรือนอกระดับเหล่านี้ (หรือ ‘Boundary')
  • Touch/No Touch – ตัวเลือกเหล่านี้มีการตั้งระดับไว้ว่า สูงกว่า หรือ ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน เทรดเดอร์จะต้องคาดการณ์ว่าราคาจริงจะ ‘แตะ' ระดับเหล่านั้น ณ จุดใด ๆ ระหว่างเวลาของการซื้อขายที่หมดอายุ

หมายเหตุ ด้วยตัวเลือกแบบ Touch นี้ การซื้อขายจะปิดก่อนเวลาหมดอายุได้ หากระดับราคาถูกแตะก่อนที่ตัวเลือกจะหมดอายุตัวเลือก “Touch” จะจ่ายเงินทันทีโดยไม่คำนึงว่าราคาจะขยับออกจากระดับการ Touch หลังจากนั้น

  • Ladder – ตัวเลือกแบบบันไดนี้มีการซื้อขายที่เหมือนแบบปกติ (แบบขึ้น/ลง) แต่แทนที่จะใช้ราคาในปัจจุบันที่แตะอยู่ แบบ Ladder จะมีระดับราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (‘laddered' จะมีการขึ้นหรือลงอย่างต่อเนื่อง) ซึ่งมักจะเป็นราคาที่เคลื่อนไปจากราคาปัจจุบันออกไป และในฐานะที่เป็นตัวเลือกแบบนี้ โดยทั่วไปจะต้องมีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น การจ่ายเงินจึงมักจะจ่ายเกิน 100% แต่การค้าแบบนี้อาจไม่สามารถใช้ได้ในบางที่

จะเทรดอย่างไร

เมื่อเราทราบไปแล้วว่า ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร หากคุณสนใจที่จะลงทุนกับสิ่งนี้ คุณก็ควรต้องเข้าใจถึงขั้นตอนของการเทรดเป็นอันดับต่อไป ซึ่งด้านล่างนี้จะเป็นคำแนะนำทีละขั้นตอนสำหรับทำการซื้อขายไบนารี

  1. เลือกโบรกเกอร์ – มีโบรกเกอร์มากมายที่ถูกเขียนรีวิวไว้ ซึ่งเรามีการคัดสรรโบรกเกอร์และรีวิวโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดประจำปีไว้แล้ว เพื่อความสะดวกของคุณ สามารถคลิกที่นี่เพื่อไปยังเว็บไซต์โบรกเกอร์เพื่อการซื้อขายไบนารีที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
  2. เลือกสินทรัพย์หรือตลาดเพื่อซื้อขาย – รายการสินทรัพย์มีขนาดใหญ่และครอบคลุมสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น Cryptocurrency Forex หรือดัชนี เป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากคุณได้มีตัวเลือกสำหรับการซื้อขายกว้าง และยิ่งเป็นรายใหญ่ก็เป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นได้ว่าจะสามารถช่วยทำรายได้ให้คุณได้ ตัวอย่างเช่น ราคาน้ำมัน หรือ ราคาหุ้นของ Apple
  3. เลือกเวลาหมดอายุ (expiry time) – Option สามารถเลือกเวลาหมดอายุได้ ระหว่าง 30 วินาที จนถึง 1 ปี
  4. กำหนดขนาดของการค้า – จำไว้ว่า ร้อยทั้งร้อยของการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น ให้พิจารณาจำนวนการค้าอย่างระมัดระวัง สิ่งนี้ควรเหมาะสมกับสไตล์การใช้ชีวิตของคุณด้วย
  5. คลิก Call/Put หรือ Buy/Sell – มูลค่าสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้น ปุ่มของแต่ละโบรกเกอร์จะมีความแตกต่างกันออกไป
  6. ตรวจสอบและยืนยันการค้า – โบรกเกอร์หลายแห่งเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์ให้ตรวจสอบและมั่นใจว่ารายละเอียดถูกต้องก่อนยืนยันการซื้อขาย

การเลือกโบรกเกอร์

เมื่อเรากล่าวถึงการฉ้อโกงบน Option ที่เกิดขึ้น มันเป็นที่ปัญหาสำคัญในอดีต เนื่องจากมีผู้ประกอบการที่ฉ้อโกงและไม่มีใบอนุญาตใช้ประโยชน์จาก Binary Option เป็นตราสารอนุพันธ์ที่แปลกใหม่มาเพื่อหลอกล่อผู้ใช้บริการ แต่บริษัทเหล่านั้นก็ได้ถูกจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะโชคดีที่มีหน่วยงานกำกับดูแลได้เริ่มดำเนินการในที่สุดแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเทรดเดอร์ก็ควรยังคงต้องมองหาโบรกเกอร์ที่มีการควบคุมอย่างดีด้วยอีกเช่นกัน

ข้อควรระวัง อย่าทำการซื้อขายกับนายหน้าหรือโบรกเกอร์ที่อยู่ในหน้าบัญชีดำและการหลอกลวงของเรา มองหาโบรกเกอร์ที่เราแนะนำในเว็บไซต์นี่ นี่คือทางลัดไปยังบทความที่จะช่วยคุณเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมสำหรับคุณ

รายการสินทรัพย์

จำนวนและความหลากหลายของสินทรัพย์ที่คุณสามารถซื้อขายนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละโบรกเกอร์ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีตัวเลือกเกี่ยวกับสินทรัพย์ยอดนิยมอยู่แล้ว เช่น คู่ forex ที่สำคัญ ซึ่งรวมไปถึง EUR/USD, USD/JPY และ GBP/USD รวมถึงดัชนีหุ้นหลัก เช่น FTSE, S&P 500 หรือ Dow Jones Industrial สินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึง ทองคำ เงิน น้ำมัน ก็มีให้โดยทั่วไป

หุ้นและหลักทรัพย์แต่ละตัวสามารถซื้อขายได้ผ่านโบรกเกอร์ไบนารีจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ว่าทุกหุ้นจะพร้อมใช้งาน โดยทั่วไปคุณสามารถเลือกหุ้นที่เป็นที่นิยมประมาณ 25 ถึง100 รายการ เช่น Google และ Apple รายการเหล่านี้มีการเติบโตตลอดเวลาตามความต้องการสั่ง

รายการสินทรัพย์มีการระบุไว้อย่างชัดเจนเสมอในทุกแพลตฟอร์มการซื้อขายและโบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะแสดงรายการสินทรัพย์แบบเต็มในเว็บไซต์ของผู้ให้บริการแต่ละราย

เวลาหมดอายุ (Expiry Times)

เวลาหมดอายุ คือ จุดที่การค้าขายถูกปิดและตัดสิน ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือ ที่ตัวเลือก ‘Touch' ถ้าถึงระดับที่ตั้งไว้ก่อนที่จะหมดอายุ การหมดอายุของการค้าใด ๆ จะสามารถอยู่ในช่วงตั้งแต่ 30 วินาที จนถึง 1 ปี โดยทั่วไปการเทรดบนไบนารีออปชั่นจะเลือกเทรดในระยะสั้นมากกว่ากำลังได้รับความนิยมมากกว่าช่วงเวลาที่กว้าง โบรกเกอร์บางรายยังให้ความยืดหยุ่นแก่เทรดเดอร์ในการกำหนดเวลาหมดอายุของตนเอง

โดยทั่วไปแล้วเวลาหมดอายุจะแบ่งออกเป็นสามประเภท ดังนี้

  • Short Term / Turbo (ระยะสั้น / เทอร์โบ) – โดยปกติจะถูกจัดประเภทไว้เป็นเวลาหมดอายุใด ๆ ที่ต่ำกว่า 5 นาที
  • Normal (ปกติ) – สิ่งนี้จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 5 นาทีจนถึง ‘สิ้นสุดของวัน' ซึ่งจะหมดอายุเมื่อตลาดของสินทรัพย์นั้นปิด
  • Long term (ระยะยาว) – การหมดอายุใด ๆ หลังจากสิ้นสุดของวันจะถือเป็นระยะยาว วันหมดอายุที่ยาวที่สุดอาจเป็น 12 เดือน

กฎข้อบังคับ หรือ การควบคุม

เริ่มแรกการตอบสนองของไบนารีออปชั่นจะยังช้า แต่ตอนนี้มีหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำลังเริ่มที่จะควบคุมอุตสาหกรรมนี่และทำให้พวกเขาเกิดความกระตุ้นมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้หน่วยงานกำกับดูแลที่สำคัญ คอยควบคุมไบนารีออปชั่นอยู่ได้แก่

  • Financial Conduct Authority (FCA) – หน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร
  • Cyprus Securities and Exchange Commission (CySec) – หน่วยงานกำกับดูแลของไซปรัสมักจะควบคุมในส่วนของสหภาพยุโรปภายใต้ MiFID
  • Commodity Futures Trading Commission (CFTC) – หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกา
  • Australian Securities and Investments Commission (ASIC) – หน่วยงานกำกับดูแลของออสเตรเลีย

นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานกำกับดูแลที่ดำเนินงานใน Malta และ the Isle of Man ด้วย ตอนนี้หน่วยงานอื่น ๆ หลายแห่งกำลังให้ความสนใจกับไบนารีออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหภาพยุโรปที่หน่วยงานกำกับดูแลในประเทศมีความกระตือรือร้นที่จะสนับสนุนกฎระเบียบของ CySec มากขึ้น

อย่างไรก็ตามโบรกเกอร์ที่ไม่มีการควบคุมก็ยังคงมีการให้บริการอยู่ ซึ่งบางเจ้าก็มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากมาย การขาดการควบคุมแต่ยังได้รับคงามมั่นใจแบบนี้เป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกได้ว่าเป็นรายใหม่ที่มีศักยภาพในตลาดสู

ESMA

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ESMA (European Securities and Markets Authority, สำนักงานหลักทรัพย์และตลาดแห่งยุโรป) ได้เข้ามาต่อต้านหน่วยควบคุมการซื้อขายบนตลาดของไบนารี่ออฟชั่นในสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตามมันเป็นการห้ามใช้โบรกเกอร์ที่ควบคุมในสหภาพยุโรปเท่านั้น วิธีนี้ทำให้เทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่นมีทางเลือกในการซื้อขาย ประการแรก คือ พวกเขาสามารถซื้อขายกับบริษัทที่ไม่มีการควบคุมได้ ซึ่งนี่ถือได้ว่าเป็นความเสี่ยงที่สูงมากและไม่แนะนำให้เลือก เนื่องจาก บริษัทที่ไม่มีการควบคุมบางแห่งมีความรับผิดชอบและซื่อสัตย์ แต่หลายแห่งไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ตัวเลือกที่ 2 คือ การใช้บริษัที่ควบคุมโดยหน่วยงานภายนอกสหภาพยุโรป ASIC ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่แข็งแกร่งเช่นกัน ซึ่งพวกเขาจะไม่ดำเนินการห้ามแต่อย่างใด นั่นหมายความว่า บริษัทที่ได้รับการควบคุมของ ASIC ยังสามารถรับเทรดเดอร์ในสหภาพยุโรปได้ ดูรายการโบรกเกอร์ของเราสำหรับโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมหรือเชื่อถือได้

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกที่ 3  คือ เทรดเดอร์ที่ลงทะเบียนเป็น ‘มืออาชีพ' จะได้รับการยกเว้นจากการถูกแบนใหม่นี้ การห้ามถูกแบนออกมาเพื่อปกป้องนักลงทุน ‘รายย่อย' เท่านั้น นักซื้อขายมืออาชีพสามารถทำการซื้อขายต่อที่โบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมของสหภาพยุโรป เช่น Olymp Trade เป็นต้น ในการจัดประเภทเป็นมืออาชีพเจ้าของบัญชีจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ 2 ใน 3ข้อ ต่อไปนี้

  • เปิดการซื้อขาย 10 ครั้งขึ้นไป ต่อ ไตรมาส จาก € 150 ขึ้นไป
  • มีสินทรัพย์ € 500,000 ขึ้นไป
  • ทำงานเป็นเวลา 2 ปี ในบริษัทการเงินและมีประสบการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

สุดท้ายแล้วสิ่งหนึ่งที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจที่จะลงทุนผู้ค้าหรือเทรดเดอร์ควรที่จะศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด หารีวิว บทความที่เป็นความรู้ก่อน เพื่อให้มีความมั่นใจได้ว่าสิ่งที่เราเลือกคือตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว