Binary Option คืออะไร
ในปัจจุบันนี้มีช่องทางการลงทุนมากมายไม่ว่าจะเป็น การฝากประจำ การเล่นหุ้น กองทุนต่าง ๆ หรือ ไบนารี่ออปชั่น และวันนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับไบนารี่ออปชั่น ว่ามันคืออะไร แล้วเราจะสามารถสร้างรายได้จากสิ่งนี้ได้อย่างไร ก่อนอื่นเราไปทำความเข้าใจกันก่อนว่า Binary Option คืออะไร
Binary Option เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งเป็นตัวเลือกเพื่อช่วยให้นักลงทุน “คาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะขึ้นหรือลงในอนาคต” เช่น ราคาหุ้นของ Google, ราคาของ Bitcoin, การแลกเปลี่ยน USD/GBP, อัตราหรือราคาทองคำ โดยช่วงเวลาที่ใช้อาจเพียงแค่น้อยเพียง 60 วินาที ก็ทำให้คุณสามารถทำการค้าขายได้หลายร้อยครั้งต่อวันในตลาดโลก และก่อนที่คุณจะทำการค้า คุณจะรู้ว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนคืนมาเท่าไหร่หากการคาดการณ์ของคุณถูกต้องโดยปกติ 70-95% ถ้าคุณลงทุน $ 100 คุณจะได้รับเครดิต $ 170 ถึง $ 195 จากการเทรดที่ประสบความสำเร็จของคุณ สิ่งนี้ทำให้การบริหารความเสี่ยงและการตัดสินใจซื้อขายง่ายขึ้นมาก ซึ่งผลลัพธ์จะมีคำตอบแค่หรือไม่ใช่ หมายความว่า ถ้าคุณชนะก็ได้ทั้งหมด หรือ ถ้าคุณแพ้ก็เสียทั้งหมดนั่นเอง สิ่งนี้จึงถูกเรียกว่า “Binary Option” นั่นเอง โดยความเสี่ยงและผลตอบแทนจะเป็นที่ทราบกันล่วงหน้า และโครงสร้างผลตอบแทนก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าดึงดูดเป็นอย่างมาก
และตอนนี้การซื้อขายแลกเปลี่ยนบนไบนารี่มีการเปิดอย่างถูกต้องแล้ว นั่นหมายความว่าผู้ค้าหรือเทรดเดอร์ไม่ได้เทรดต่อต้านกับโบรกเกอร์แต่อย่างใด แต่ในการเริ่มต้นซื้อขายคุณต้องมีบัญชีของโบรคเกอร์ที่ได้รับการควบคุมหรือมีใบรับรองก่อน
หากคุณยังเป็นน้องใหม่ใน Binary Option คุณสามารถเปิดบัญชีทดลอง (Demo Account) กับโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก่อน เพื่อลองใช้แพลตฟอร์มของพวกเขาและดูว่าการทำงานเป็นอย่างไรในการซื้อขาย ก่อนที่คุณจะฝากเงินจริง
ประเภทตัวเลือก (Option Types)
ตัวเลือกของไบนารี่ออปชั่นที่พบมากที่สุด คือ การซื้อขายแบบ “ขึ้น/ลง” อย่างไรก็ตามก็ยังมีตัวเลือกประเภทต่าง ๆ แต่ปัจจัยทั่วไปอย่างหนึ่ง คือ ผลลัพธ์จะมีผลลัพธ์เป็น “ไบนารี” (นั่นคือ ใช่หรือไม่ใช่ เท่านั้น) ต่อไปนี่คือประเภทตัวเลือกอื่น ๆ ที่มี
- ขึ้น/ลง หรือ สูง/ต่ำ – ตัวเลือกไบนารีพื้นฐานและใช้กันทั่วไป เป็นการลงทุนแบบที่มีการเปิดโอกาสให้ทายผลราคาสินทรัพย์ที่คาดว่าจะขึ้นหรือลง (Up/Down or High/Low)
- In/Out, Range หรือ Boundary – ตัวเลือกนี้จะตั้งค่าตัวเลข “สูง” และ “ต่ำ” แล้วให้เทรดเดอร์หรือผู้ค้าทำนายว่าราคาจะสิ้นสุดภายในระดับหรือนอกระดับเหล่านี้ (หรือ ‘Boundary')
- Touch/No Touch – ตัวเลือกเหล่านี้มีการตั้งระดับไว้ว่า สูงกว่า หรือ ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน เทรดเดอร์จะต้องคาดการณ์ว่าราคาจริงจะ ‘แตะ' ระดับเหล่านั้น ณ จุดใด ๆ ระหว่างเวลาของการซื้อขายที่หมดอายุ
หมายเหตุ ด้วยตัวเลือกแบบ Touch นี้ การซื้อขายจะปิดก่อนเวลาหมดอายุได้ หากระดับราคาถูกแตะก่อนที่ตัวเลือกจะหมดอายุตัวเลือก “Touch” จะจ่ายเงินทันทีโดยไม่คำนึงว่าราคาจะขยับออกจากระดับการ Touch หลังจากนั้น
- Ladder – ตัวเลือกแบบบันไดนี้มีการซื้อขายที่เหมือนแบบปกติ (แบบขึ้น/ลง) แต่แทนที่จะใช้ราคาในปัจจุบันที่แตะอยู่ แบบ Ladder จะมีระดับราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (‘laddered' จะมีการขึ้นหรือลงอย่างต่อเนื่อง) ซึ่งมักจะเป็นราคาที่เคลื่อนไปจากราคาปัจจุบันออกไป และในฐานะที่เป็นตัวเลือกแบบนี้ โดยทั่วไปจะต้องมีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น การจ่ายเงินจึงมักจะจ่ายเกิน 100% แต่การค้าแบบนี้อาจไม่สามารถใช้ได้ในบางที่
จะเทรดอย่างไร
เมื่อเราทราบไปแล้วว่า ไบนารี่ออปชั่นคืออะไร หากคุณสนใจที่จะลงทุนกับสิ่งนี้ คุณก็ควรต้องเข้าใจถึงขั้นตอนของการเทรดเป็นอันดับต่อไป ซึ่งด้านล่างนี้จะเป็นคำแนะนำทีละขั้นตอนสำหรับทำการซื้อขายไบนารี
- เลือกโบรกเกอร์ – มีโบรกเกอร์มากมายที่ถูกเขียนรีวิวไว้ ซึ่งเรามีการคัดสรรโบรกเกอร์และรีวิวโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดประจำปีไว้แล้ว เพื่อความสะดวกของคุณ สามารถคลิกที่นี่เพื่อไปยังเว็บไซต์โบรกเกอร์เพื่อการซื้อขายไบนารีที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
- เลือกสินทรัพย์หรือตลาดเพื่อซื้อขาย – รายการสินทรัพย์มีขนาดใหญ่และครอบคลุมสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น Cryptocurrency Forex หรือดัชนี เป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากคุณได้มีตัวเลือกสำหรับการซื้อขายกว้าง และยิ่งเป็นรายใหญ่ก็เป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นได้ว่าจะสามารถช่วยทำรายได้ให้คุณได้ ตัวอย่างเช่น ราคาน้ำมัน หรือ ราคาหุ้นของ Apple
- เลือกเวลาหมดอายุ (expiry time) – Option สามารถเลือกเวลาหมดอายุได้ ระหว่าง 30 วินาที จนถึง 1 ปี
- กำหนดขนาดของการค้า – จำไว้ว่า ร้อยทั้งร้อยของการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น ให้พิจารณาจำนวนการค้าอย่างระมัดระวัง สิ่งนี้ควรเหมาะสมกับสไตล์การใช้ชีวิตของคุณด้วย
- คลิก Call/Put หรือ Buy/Sell – มูลค่าสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้น ปุ่มของแต่ละโบรกเกอร์จะมีความแตกต่างกันออกไป
- ตรวจสอบและยืนยันการค้า – โบรกเกอร์หลายแห่งเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์ให้ตรวจสอบและมั่นใจว่ารายละเอียดถูกต้องก่อนยืนยันการซื้อขาย
การเลือกโบรกเกอร์
เมื่อเรากล่าวถึงการฉ้อโกงบน Option ที่เกิดขึ้น มันเป็นที่ปัญหาสำคัญในอดีต เนื่องจากมีผู้ประกอบการที่ฉ้อโกงและไม่มีใบอนุญาตใช้ประโยชน์จาก Binary Option เป็นตราสารอนุพันธ์ที่แปลกใหม่มาเพื่อหลอกล่อผู้ใช้บริการ แต่บริษัทเหล่านั้นก็ได้ถูกจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะโชคดีที่มีหน่วยงานกำกับดูแลได้เริ่มดำเนินการในที่สุดแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเทรดเดอร์ก็ควรยังคงต้องมองหาโบรกเกอร์ที่มีการควบคุมอย่างดีด้วยอีกเช่นกัน
ข้อควรระวัง อย่าทำการซื้อขายกับนายหน้าหรือโบรกเกอร์ที่อยู่ในหน้าบัญชีดำและการหลอกลวงของเรา มองหาโบรกเกอร์ที่เราแนะนำในเว็บไซต์นี่ นี่คือทางลัดไปยังบทความที่จะช่วยคุณเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมสำหรับคุณ
รายการสินทรัพย์
จำนวนและความหลากหลายของสินทรัพย์ที่คุณสามารถซื้อขายนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละโบรกเกอร์ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีตัวเลือกเกี่ยวกับสินทรัพย์ยอดนิยมอยู่แล้ว เช่น คู่ forex ที่สำคัญ ซึ่งรวมไปถึง EUR/USD, USD/JPY และ GBP/USD รวมถึงดัชนีหุ้นหลัก เช่น FTSE, S&P 500 หรือ Dow Jones Industrial สินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึง ทองคำ เงิน น้ำมัน ก็มีให้โดยทั่วไป
หุ้นและหลักทรัพย์แต่ละตัวสามารถซื้อขายได้ผ่านโบรกเกอร์ไบนารีจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ว่าทุกหุ้นจะพร้อมใช้งาน โดยทั่วไปคุณสามารถเลือกหุ้นที่เป็นที่นิยมประมาณ 25 ถึง100 รายการ เช่น Google และ Apple รายการเหล่านี้มีการเติบโตตลอดเวลาตามความต้องการสั่ง
รายการสินทรัพย์มีการระบุไว้อย่างชัดเจนเสมอในทุกแพลตฟอร์มการซื้อขายและโบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะแสดงรายการสินทรัพย์แบบเต็มในเว็บไซต์ของผู้ให้บริการแต่ละราย
เวลาหมดอายุ (Expiry Times)
เวลาหมดอายุ คือ จุดที่การค้าขายถูกปิดและตัดสิน ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือ ที่ตัวเลือก ‘Touch' ถ้าถึงระดับที่ตั้งไว้ก่อนที่จะหมดอายุ การหมดอายุของการค้าใด ๆ จะสามารถอยู่ในช่วงตั้งแต่ 30 วินาที จนถึง 1 ปี โดยทั่วไปการเทรดบนไบนารีออปชั่นจะเลือกเทรดในระยะสั้นมากกว่ากำลังได้รับความนิยมมากกว่าช่วงเวลาที่กว้าง โบรกเกอร์บางรายยังให้ความยืดหยุ่นแก่เทรดเดอร์ในการกำหนดเวลาหมดอายุของตนเอง
โดยทั่วไปแล้วเวลาหมดอายุจะแบ่งออกเป็นสามประเภท ดังนี้
- Short Term / Turbo (ระยะสั้น / เทอร์โบ) – โดยปกติจะถูกจัดประเภทไว้เป็นเวลาหมดอายุใด ๆ ที่ต่ำกว่า 5 นาที
- Normal (ปกติ) – สิ่งนี้จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 5 นาทีจนถึง ‘สิ้นสุดของวัน' ซึ่งจะหมดอายุเมื่อตลาดของสินทรัพย์นั้นปิด
- Long term (ระยะยาว) – การหมดอายุใด ๆ หลังจากสิ้นสุดของวันจะถือเป็นระยะยาว วันหมดอายุที่ยาวที่สุดอาจเป็น 12 เดือน
กฎข้อบังคับ หรือ การควบคุม
เริ่มแรกการตอบสนองของไบนารีออปชั่นจะยังช้า แต่ตอนนี้มีหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำลังเริ่มที่จะควบคุมอุตสาหกรรมนี่และทำให้พวกเขาเกิดความกระตุ้นมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้หน่วยงานกำกับดูแลที่สำคัญ คอยควบคุมไบนารีออปชั่นอยู่ได้แก่
- Financial Conduct Authority (FCA) – หน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร
- Cyprus Securities and Exchange Commission (CySec) – หน่วยงานกำกับดูแลของไซปรัสมักจะควบคุมในส่วนของสหภาพยุโรปภายใต้ MiFID
- Commodity Futures Trading Commission (CFTC) – หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกา
- Australian Securities and Investments Commission (ASIC) – หน่วยงานกำกับดูแลของออสเตรเลีย
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานกำกับดูแลที่ดำเนินงานใน Malta และ the Isle of Man ด้วย ตอนนี้หน่วยงานอื่น ๆ หลายแห่งกำลังให้ความสนใจกับไบนารีออปชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหภาพยุโรปที่หน่วยงานกำกับดูแลในประเทศมีความกระตือรือร้นที่จะสนับสนุนกฎระเบียบของ CySec มากขึ้น
อย่างไรก็ตามโบรกเกอร์ที่ไม่มีการควบคุมก็ยังคงมีการให้บริการอยู่ ซึ่งบางเจ้าก็มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากมาย การขาดการควบคุมแต่ยังได้รับคงามมั่นใจแบบนี้เป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกได้ว่าเป็นรายใหม่ที่มีศักยภาพในตลาดสู
ESMA
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ESMA (European Securities and Markets Authority, สำนักงานหลักทรัพย์และตลาดแห่งยุโรป) ได้เข้ามาต่อต้านหน่วยควบคุมการซื้อขายบนตลาดของไบนารี่ออฟชั่นในสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตามมันเป็นการห้ามใช้โบรกเกอร์ที่ควบคุมในสหภาพยุโรปเท่านั้น วิธีนี้ทำให้เทรดเดอร์ไบนารี่ออปชั่นมีทางเลือกในการซื้อขาย ประการแรก คือ พวกเขาสามารถซื้อขายกับบริษัทที่ไม่มีการควบคุมได้ ซึ่งนี่ถือได้ว่าเป็นความเสี่ยงที่สูงมากและไม่แนะนำให้เลือก เนื่องจาก บริษัทที่ไม่มีการควบคุมบางแห่งมีความรับผิดชอบและซื่อสัตย์ แต่หลายแห่งไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ตัวเลือกที่ 2 คือ การใช้บริษัที่ควบคุมโดยหน่วยงานภายนอกสหภาพยุโรป ASIC ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่แข็งแกร่งเช่นกัน ซึ่งพวกเขาจะไม่ดำเนินการห้ามแต่อย่างใด นั่นหมายความว่า บริษัทที่ได้รับการควบคุมของ ASIC ยังสามารถรับเทรดเดอร์ในสหภาพยุโรปได้ ดูรายการโบรกเกอร์ของเราสำหรับโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมหรือเชื่อถือได้
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกที่ 3 คือ เทรดเดอร์ที่ลงทะเบียนเป็น ‘มืออาชีพ' จะได้รับการยกเว้นจากการถูกแบนใหม่นี้ การห้ามถูกแบนออกมาเพื่อปกป้องนักลงทุน ‘รายย่อย' เท่านั้น นักซื้อขายมืออาชีพสามารถทำการซื้อขายต่อที่โบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมของสหภาพยุโรป เช่น Olymp Trade เป็นต้น ในการจัดประเภทเป็นมืออาชีพเจ้าของบัญชีจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ 2 ใน 3ข้อ ต่อไปนี้
- เปิดการซื้อขาย 10 ครั้งขึ้นไป ต่อ ไตรมาส จาก € 150 ขึ้นไป
- มีสินทรัพย์ € 500,000 ขึ้นไป
- ทำงานเป็นเวลา 2 ปี ในบริษัทการเงินและมีประสบการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
สุดท้ายแล้วสิ่งหนึ่งที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจที่จะลงทุนผู้ค้าหรือเทรดเดอร์ควรที่จะศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด หารีวิว บทความที่เป็นความรู้ก่อน เพื่อให้มีความมั่นใจได้ว่าสิ่งที่เราเลือกคือตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว